วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2561

เรื่อง ตึกกรอสส์

เรื่อง ตึกกรอสส์
ผู้แต่ง อ.อุดากร


เรื่องย่อ

   วิทยาเป็นนักเรียนแพทย์ เมื่อวิทยาเข้ามาเรียนที่ศิริราช ทุกห้องที่ตึกกรอสส์โดยเฉพาะห้องชำแหละศพเป็นห้องที่วิทยาชื่นชอบมาก ศพโต๊ะเบอร์ 11 เป็นศพที่วิทยาใช้ทำ lab เจ้าของศพเป็นนักโทษชื่อ แจ้ง ชัยงาม ตายด้วยโรคมาลาเรีย ซึ่งความจริงเป็นพ่อของวิทยาแต่วิทยาไม่รู้ วิทยามารู้ทีหลังว่าเป็นพ่อของตน เมื่อวิทยาเจอกระดาษแผ่นหนึ่งคั่นอยู่ในหนังสือของคุณอาของวิทยา 
                 ถึงพระอรรถธรรมาดา
                จดหมายฉบับนี้คงเป็นฉบับสุดท้ายที่ฉันจะได้เขียนถึงเธอ  เพราะว่าไข้กำเริบขึ้นทุกขณะ  แต่ดีใจว่าจะหมดเวรหมดกรรมเสียที  ถ้าไม่ตายเสียก็คงจะรับทุกข์ทรมานต่อไปอีก  ฉันเบื่อเต็มที  แต่อย่างไรก็ดี  ฉันคิดถึงลูก  วิทยาคงหลงว่าพ่อของเขานั้นตายมานานแล้ว  แต่ดีละ  เขารู้อย่างนั้นดีกว่าจะรู้ว่าพ่อของเขาเป็นนักโทษตลอดชีวิต  เพราะฆ่าคนที่ทำลายเกียรติยศของแม่เขา
                ฉันตั้งใจจะอุทิศศพของฉันเองให้โรงพยาบาลศิริราชเพื่อเป็นบริการของนักเรียนแพทย์  วิทยาคงจะข้ามฟากปีหน้าใช่ไหม?  ฉันไม่มีโอกาสได้อยู่กับลูกเลยเกือบตลอดเวลาที่มีชีวิตอยู่  ดังนั้น  ฉันภาวนาว่าขอให้ได้อยู่ใกล้ๆ กับเขาสักหน่อยเถิด  แม้ว่าจะสิ้นชีวิตไปแล้วก็ตาม
                อย่าลืมทำลายเอกสารที่มีรูปและรอยตำหนิของฉันเสีย  ทั้งๆ ที่ฉันอยากจะอยู่ใกล้ๆ ลูกเมื่อตายไปแล้ว  แต่ก็คงไม่อยากให้เขารู้ว่าฉันเป็นใครอยู่ดี  ไฝสามเม็ดที่ท้ายทอยของฉันไม่เหมือนใคร  อย่าให้วิทยารู้จักพ่อของเขาได้จากตำหนินั้น  หากเขาจะได้ชำแหละศพพ่อของเขาด้วยมือของเขาเอง

        หลังจากนั้นวิทยาก็ไปที่ศพโต๊ะเบอร์11เพื่อพิสูจน์พบไฝ 3 เม็ดเรียงเป็นแถวที่ท้ายทอยซึ่งตรงกับในจดหมายที่บอกถึงว่าเป็นพ่อของวิทยาทำให้วิทยาเสียใจเป็นอย่างยิ่ง แล้วเขาก็หายไป  2 ปีโดยไม่มีใครทราบ ต่อมาเขากลับมาหาเจษฎางค์และต้อยด้วยสภาพผอมมาก ผิวดำสภาพไม่น่าดู เมื่อวิทยาจบชีวิตลงแล้วอุทิศร่างของตนให้เป็นอาจารย์ใหญ่ 
                
  ประทับใจจากคำพูดของพ่อของวิทยา คือ 

                ฉันตั้งใจจะอุทิศศพของฉันเองให้โรงพยาบาลศิริราชเพื่อเป็นบริการของนักเรียนแพทย์

  ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้
      ความจริงของชีวิตที่ไม่อาจเลี่ยงได้นั่นก็ซึ่งนั้นก็หมายถึงความตาย ดิฉันเลยคิดว่า ตายแล้วจบ ศพบริจาค

  ทำไมถึงเลือกหนังสือเล่มนี้ 
             ส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือแต่ชอบดูหนังที่ระทึกขวัญ ที่ชอบเดาเหตุการณ์ล่วงหน้า แล้วมีพี่คนนึงแนะนำเรื่องนี้มาเลยลองอ่านดูรู้สึกสนุกและลุ้นไปด้วยเสมือนเป็นการคาดการณ์ว่าจะต้องมีเหตุการณ์อย่างหนึ่งอย่างใดเกิดขึ้นในอนาคตที่ จึงกลายเป็นหนังสือเล่มแรกที่ประทับใจ จึงเลือกหนังสือเล่มนี้คะ

นางสาว อมรศรี แซ่ลิ่ม 
รหัสนิสิต 611031562
สาขาวิชา เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา

3 ความคิดเห็น:

  1. เป็นเรื่องที่น่าคิดมากกับการดำรงชีวิตคนเรา และแน่นอนว่าคนเราม่สามารถหนีความตายได้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าอ่านและน่าใจมาก ซึ่งเพื่อนได้ยิบยกตัวอย่างที่สำคํญซึ่งหากคนเราตายไปแล้วสามารถที่อุทิศร่างให้กับทางโรงบาลเพื่อนที่จะให้นักศึกษาเรียนรุ้อีกด้วย
    นายอิมรอน หูเขียว รหัสนิสิต 611031113
    คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาเคมี

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  3. ฉันชอบบทคงามแนวนี้ให้ทั้งความรู้และเเนวคิด ชอบการเขียนบทความของเขา อ่านแล้วเข้าใจง่าย ครอบคลุม และตัวอักษรพอดี ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป ได้ข้อคิดจากเรื่องเช่น การเกิด แก่ เจ็บ ตาย คนเราต้องใช้ชีวิตอย่าฃระมัดระวังอยู่เสมอ เราไม่มีทางรู้หรอกว่าความตายจะมาถึงเราตอนไหน แค่ต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด
    นางสาว ฮามิดา หวันยาหวา
    รหัสนิสิต 611031573
    สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
    คณะศึกษาศาสตร์

    ตอบลบ